RIKU Cosmetics แบรนด์เครื่องสำอางสไตล์ญี่ปุ่นน้องใหม่ที่น่าจับตามอง
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่านี่เป็นกระทู้แรกของเราค่ะ ตามอ่านกระทู้ของคนอื่นมานาน เลยอยากจะมาแชร์เรื่องความสวย ความงามกับเขาบ้าง เราเป็นคนที่ชื่นชอบลองใช้เครื่องสำอางใหม่ๆ แบรนด์ไหนเพิ่งเปิดตัวขอให้บอกเราค่ะ เราจะตามไปหาคุณเอง เพราะเราคงคอนเซ็ปต์ที่ว่า “เครื่องสำอางไม่ใช่ของฟุ่มเฟือย แต่เป็นของที่ผู้หญิงต้องมี!!”
ด้วยความที่เราเป็นสาวโซเชียล เมื่อวันหยุดส่งกรานต์ที่ผ่านมา นั่งกดโทรศัพท์เพื่ออัพเดทความสวย ความงามเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ไปสะดุดที่เครื่องสำอางแบรนด์หนึ่งที่มีชื่อว่า “RIKU Cosmetics” ความรู้สึกแรกที่เห็นคือ แบรนด์อะไร ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่รูปสวย แพคเกจจิ้งดีงาม เลยเข้าไปอ่านข้อมูลมาดูคร่าวๆ เห็นว่ามีสาขาอยู่ที่เดอะมอลล์บางกะปิที่อยู่ใกล้บ้านเรามาก เราไม่รีบค่ะ แต่วันต่อมาชวนเพื่อนไปเดินเล่น ช็อปปิ้ง กินข้าวที่เดอะมอลล์บางกะปิทันที
เราตั้งใจเพื่อไปลองผลิตภัณฑ์ของเขาโดยเฉพาะ เดินขึ้นไปชั้น 2 จะอยู่ฝั่งตรงข้ามธนาคารกสิกร หาง่ายมากๆ เมื่อเห็นร้าน “RIKU Cosmetics” ทำให้เรามีความสนใจมากกว่าเดิม เพราะเป็นแบรนด์ใหม่ที่ร้านดูสะอาดตา ญี่ปุ๊นญี่ปุ่นสุดๆ โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดยเขาจะเน้นความเรียบง่าย แต่ร่วมสมัย แฝงด้วยความอบอุ่น และทั้งหมดนี้คือเสน่ห์ที่เราไม่รอช้า รีบพุ่งตัวเข้าไปจนได้รู้ว่า ริคุ คอสเมติก (RIKU Cosmetics) เพิ่งเปิดตัวมาได้ประมาณ 2 เดือนเองค่ะ เป็น Japanese Lifestyle Cosmetics brand มาเปิดที่ไทยเป็นที่แรก ซึ่งเป็นเสมือนตัวแทนเสน่ห์ความงามของผู้หญิงยุคใหม่ เพื่อให้ได้พบเสน่ห์ใหม่ๆ และสนุกสนานไปกับดูแลตัวเองอย่างเรียบง่าย พร้อมเผยเสน่ห์จากตัวตนอย่างแท้จริง แค่คอนเซ็ปต์เขาก็ทำให้เราอยากจะค้นหาเงินในกระเป๋า แล้วเดินหน้ามุ่งไปค้นคว้าหาความรู้ว่าเครื่องสำอางของเขามีอะไรและมันดียังไงบ้าง (อิอิ)
ไปค่ะ! เราจะพาคุณไปส่องเครื่องสำอางแบรนด์ใหม่นี้กัน และอย่างที่บอกว่าริคุ คอสเมติกเป็นแบรนด์น้องใหม่ทำให้ผลิตภัณฑ์ยังมีไม่เยอะเท่าไหร่ (เขาบอกว่ากำลังทยอยออกมาค่ะ) ซึ่งตอนนี้เขามีอยู่ 5 ตัวด้วยกันคือ โฟมล้างหน้า เซรั่ม ครีม บีบีครีม และอายไลเนอร์
ผลิตภัณฑ์ที่น้อง BA แนะนำว่าขายดีเป็นอันดับ 1 คือ RIKU WATERPROOF EYELINER เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายทางออนไลน์มาตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งเขาเคลมว่าเป็นอายไลเนอร์ที่เขียนง่าย คมชัด มาพร้อมประสิทธิภาพกันน้ำ กันเหงื่อ หรือหนังตามันแค่ไหนก็เอาอยู่ ติดทนยาวนาน ไม่เลอะเป็นคราบระหว่างวัน ตอนแรกที่ได้ฟังเราแอบไม่เชื่อค่ะ เพราะไม่มีอายไลเนอร์แบรนด์ไหนที่เอาหนังตาอันมันเยิ้มของเราอยู่เลย ทำให้ไม่ชอบที่จะเขียนอายเนอร์ เราจึงพิสูจน์ด้วยการให้น้อง BA เขียนตาให้ในทันที จากนั้นเราก็ลองไปเล่นเครื่องสำอางตัวอื่นก่อนเพื่อรอเวลาให้หนังตามันๆ ของเราได้ทำงาน (555)
และที่สะดุดตาเรามากๆ คือ First Milk Set ด้วยการดีไซน์ แพคเกจจิ้งที่ดูเรียบง่าย ใช้สีขาว สะอาดตา ทำให้ใจบางๆ อย่างเราอยากจะมีไว้ครอบครอง >.< ตั้งแต่ยังไม่รู้สรรพคุณเลยด้วยซ้ำค่ะ ซึ่งเซ็ทนี้เป็นน้ำนมแรกอุดมไปด้วย Growth Factor ในน้ำนมแรกบริสุทธิ์ที่ช่วยคืนความแข็งแรงให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้นและคืนความกระจ่างใส ซึ่งน้ำนมแรก (Colostrum) จะมีสรรพคุณและประโยชน์มากกว่าน้ำนมวัวธรรมดาหลายเท่า จึงช่วยบำรุงผิวหน้าให้ขาวเนียนกระจ่างใส มีสุขภาพดีนั่นเองค่ะ
มาเริ่มที่ตัวแรก RIKU First Milk Face Cleanser โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ทำความสะอาดผิวอย่างหมดจด ตัวนี้มีกลีเซอร์รีน (Glycerin) มาเป็นตัวช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวเนียนนุ่ม ลดเลือนการเกิดริ้วรอยก่อนวัย พร้อมปรับสมดุลให้ผิวไม่แห้งตึง ไม่เอี๊ยดหลังล้างหน้า โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาผิวแห้งกร้านจนเกิดริ้วรอยก่อนวัย อันนี้จริงหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าจัดมาสองหลอดจ้า เพราะเราได้ลองเนื้อ เนื้อนุ่มมากก อยากกลับบ้านล้างหน้าแล้วววค่ะ
ไหนๆ ก็จัดโฟมไปแล้ว จะซื้อไม่ครบเซ็ทก็กลัวผิวสวยไม่ครบสูตร ตัวต่อมาคือ RIKU First Milk Whitening Serum ตัวนี้เป็นเซรั่มเนื้อค่อนข้างบางเบาและซึมง่ายดีค่ะ ช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ชุ่มชื้น ช่วยชะลอความร่วงโรยของผิว ปลุกผิวให้ดูสดใส พร้อมฟื้นบำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยสารสกัดที่เข้มข้นจากเปปไทด์ 3 ชนิด ทำให้ช่วยซ่อมแซมผิวให้แข็งแรง บำรุงริ้วรอยให้ตื้นขึ้น และช่วยทำให้เม็ดสีดูจางลง
จากนั้นตามด้วย RIKU First Milk Whitening Cream ตอนแรกที่เราสัมผัสเนื้อครีมมันดูหนามาก ปกติเราเป็นคนผิวผสมที่ค่อนข้างไปทางมัน ทำให้ไม่ชอบบำรุงผิวด้วยเนื้อครีมในตอนเช้า เพราะให้ความรู้สึกไม่สบายหน้า เหนอะหนะ ในใจตอนนั้นคิดว่าไม่ซื้อ!! เอาแค่เซรั่มก็พอมั้ง ซื้อไปก็ไม่ได้ใช้แน่นอน แต่ความคิดนั้นมันแว๊บมาแค่แป๊ปเดียวเท่านั้นค่ะ มันหายไปหลังจากที่น้อง BA บอกว่า ถ้าคุณพี่ผิวแห้งสามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น แต่ถ้าผิวผสมถึงมัน แนะนำให้ใช้ก่อนนอนเสมือนสลิปปิ้งมาร์ค เช้าตื่นมาจะสัมผัสกับผิวที่เนียนนุ่ม สดใสขึ้น เพราะเป็นครีมที่บำรุงล้ำลึกถึงโครงสร้างผิว ลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน และจุดด่างดำให้จางลง พร้อมล็อคความชุ่มชื้นให้ผิวยาวนาน ช่วยทำให้เครื่องสำอางติดทน ไม่หลุดลอกง่าย โอเคจ๊ะ ยอมน้องแล้ววว
ไหนๆ ก็มาถึงขนาดนี้แล้วเราต้องซื้อให้จบค่ะ ทาครีมแล้วไม่ลงเมคอัพเดี๋ยวจะสวยไม่สุด เราเลยต้องไปต่อด้วย RIKU Recovery BB Cream SPF50/PA+++ บีบีครีมออร์แกนิกที่เนื้อบางเบา ปกปิดได้ระดับปานกลาง ให้ลุคผิวสุขภาพดี โชว์ผิวแบบเกาหลีๆหน่อย ตัวนี้สามารถใช้แทนครีมกันแดดได้เลยค่ะ นอกจากคุณสมบัติที่มอบผิวเรียบเนียน กระจ่างใส แลดูสุขภาพดีตลอดวัน แล้วยังช่วยบำรุงอย่างล้ำลึก ด้วยสารสกัดจากอะโรเนีย (Aronia) ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีความอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ทำให้ผิวพรรณแลดูอ่อนเยาว์ และคาโอลิน (Kaolin) ที่มีคุณสมบัติในการดูดซับความมันส่วนเกิน ทำให้บีบีครีมเรียบเนียน เกลี่ยง่าย กลมกลืนเข้ากับผิวได้ในเวลาอันรวดเร็วและไม่เยิ้มระหว่างวัน
พอได้ลองผลิตภัณฑ์ครบทุกตัว เงินในกระเป๋าก็เตรียมกระพือปีกเตรียมออกที่หน้าเคาท์เตอร์กันใหญ่เลยค่ะ แต่ในตอนนั้นเองน้อง BA ถามคำถามที่เราเกือบลืมไปแล้วว่า “รับอายไลเนอร์ไปด้วยไหมคะคุณพี่” (พร้อมยิ้มหวานให้1ที) ซึ่งเราเกือบลืมไปแล้วแท้ๆ (น้องก็ไม่น่าทักพี่เลย) หลังจากที่เวลาผ่านไปสักพัก เราก็เดินไปส่องกระจก แล้วดูว่า RIKU WATERPROOF EYELINER บนเปลือกตาของเราเป็นอย่างไรบ้างน้า ปรากฏว่าทุกอย่างยังอยู่ครบ เส้นสีดำสนิท ไม่แตก ไม่ไหล และไม่เยิ้ม เราไม่รู้ว่าเวลาแค่นั้นจะดูว่าของเขาดีได้หรือยัง แต่ตอนนั้นถือว่าพอใจมาก เราจึงจัดทุกตัวมาในราคาที่ต้องสะพรึง เพราะทุกอย่างราคาถูกกว่าที่คาดไว้ ทุกตัวอยู่ในราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้จริงๆ
- RIKU Waterproof Eyeliner (ขนาด 1 กรัม) (ราคา 250 บาท)
- RIKU Recovery BB Cream SPF50/PA+++ ( ขนาด 30 มล.) (ราคา 470 บาท)
- RIKU First Milk Face Cleanser (ขนาด 100 มล.) (ราคา 159 บาท)
- RIKU First Milk Whitening Serum (ขนาด 30 มล.) (ราคา 350 บาท)
- RIKU First Milk Whitening Cream (ขนาด 50 กรัม) (ราคา 390 บาท)
2 สัปดาห์ต่อมา เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก! หลังจากที่เราได้ใช้ทุกตัวอย่างต่อเนื่อง เรารู้สึกว่าหน้าเนียนนุ่มมากเวอร์ หน้าชุ่มชื้นอย่างเห็นได้ชัด รอยสิว จุดด่างดำดูจางลง และที่สำคัญเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผิวแพ้ง่ายและคุณแม่ตั้งครรภ์สามารถใช้ได้อีกด้วย อ๋อ ส่วนอายไลเนอร์เราเขียนไปใช้ชีวิตในสถานที่ต่างๆ และพิสูจน์ด้วยอากาศเมืองไทยที่แสนอบอุ่นดูค่ะ ถือว่าผ่านมากๆ ค่ะ เพราะถ้าเราไม่เอามือไปขยี้เขาเอาอยู่จริงๆ ยอมจริงๆ แล้วจ้า
- สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจเราไม่ต้องรอช้าค่ะ เราต้องรีบ เราจะสวยไปด้วยกัน สามารถหาซื้อได้ที่
Line:@Rikucosmetics
Facebook: Rikucosmetics
IG: Rikucosmetics
Website: https://www.rikucosmetics.com
หรือสามารถซื้อได้ที่ RIKU Cosmetics สาขาแรกที่ The Mall Bang kapi /เดอะมอลล์ บางกะปิ ชั้น 2 (ฝั่งตรงข้ามธนาคารกสิกรไทย)
สำหรับวันนี้เราต้องขอลาไปก่อนค่ะ >.< เราหวังว่าทุกคนจะชอบ หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ และถ้ามีเครื่องสำอางอะไรดีๆ หรือแบรนด์ไหนที่น่าสนใจเราจะมาแชร์ให้สาวๆ อีกแน่นอนค่ะ บ๊ายบายย